คิดเป็น เห็นธรรม

คิดเป็น เห็นธรรม คิดเป็น เห็นธรรม

มองเรื่องตาย แบบไม่ทุกข์

  • 2024,Nov 20
  • 3272

พระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งของเรา เป็นสรณะ (สรณะ แปลว่า ที่พึ่ง) เมื่อเราคิดด้วยสติปัญญาตนเองไม่ได้ จะเอาคำสอน คำบอกกล่าวของท่านมาพิจารณา ท่านกล่าวถึงเรื่องนี้ไว้ว่าอย่างไร ท่านให้ทำอย่างไร ? ถ้าความทุกข์นี้เกิดขึ้น พระศาสดา ข้าพระองค์มีความเศร้าโศกเหลือเกิน ด้วยธิดาของข้าพเจ้าได้ป่วยไข้ถึงกาละไปต่อหน้าต่อตา ทำใจไม่ได้เจ้าค่ะ ถ้าเราลองนึกจะคิดอย่างไร ? ไม่น่าตายเลย ไม่น่าตายเลย มันจะต้องกล่าวอย่างนั้นจนกว่าเราจะตายไปด้วย ถึงปีก็ต้องมานั่งนึกถึงวันนี้ครบรอบของลูกตายอีกแล้ว ไม่น่าตายเลย ไม่น่าตายเลย อยู่ๆ อ้าว...มีคนเดินผ่านมา เป็นเพื่อนลูกที่ตายไป โอ้...ถ้าลูกเราอยู่ก็คงโตขนาดนี้แล้ว ต้องเท่านี้แล้ว น้ำตาคลอเบ้าอีกแล้ว

...

แก้ไขไม่ได้สักทีความทุกข์นี้ ต้องพึ่งพระพุทธเจ้า ถ้าเขามีพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง เขาจะหายจากทุกข์ หายจากอาการที่เป็นอยู่อย่างนั้น บางทีมันก็ต้องชี้กันสดๆ เธอ คนที่อยู่เลยจากบ้านเธอไปสักยี่สิบหลัง เพื่อนลูกเธอตายเสียแล้ว ลูกเธอตายไปเมื่อไหร่นะ เมื่อสามปี นี่โตแข็งแรงกว่าลูกเธอ ลูกเธอตายตอนอายุสิบห้า นี่สิบแปดปีฟ้าผ่าตายเสียแล้ว เมื่อก่อนเธอเห็นเด็กคนนี้ เธอก็บอกถ้าลูกฉันยังอยู่ก็ต้องขนาดนี้ เออ...คนที่ขนาดเท่าลูกแกนี่แหละมาฟ้าผ่าตายซะแล้ว มันก็ตอบคำตอบคำเดิมนั่นแหละ ไม่น่าตายเลย ยังหนุ่มยังสาว

...

ถ้ามีใครที่จะไปทำลายความเห็น ที่คิดว่าเป็นหนุ่มเป็นสาวยังไม่น่าจะตาย จะเอาความจริงอะไรล่ะ ? มาทำให้เขาถอนความรู้สึกอย่างนี้ ก็ต้องชี้การตายของคนทั่วๆ ไปให้ว่าเป็นธรรมดาธรรมชาติ ถ้าลูกแกอยู่มาถึงสิบแปดปี ฟ้าก็อาจจะผ่าตายอย่างนี้ก็ได้ ตายไปตั้งแต่อายุสิบห้า สามปีที่ไม่ได้มากินอยู่ใช้ตังค์ แกเลยไม่เสียเปล่าสูญเปล่า ไม่หมดไม่เปลือง

...

ไหนๆ ก็จะต้องตาย การตายไวมันก็อาจจะมีประโยชน์ มากินข้าวกินน้ำบนเมืองมนุษย์นี้ไม่สิ้นไม่เปลืองอะไรเยอะดี ไม่มาทุกข์มาลำบากอยู่บนโลกใบนี้นานเหมือนกับคนอื่นๆ รู้ว่ามันเป็นทุกข์มาประเดี๋ยวประด๋าวก็ไปแล้ว ถ้าอยู่ไปก็ยิ่งทุกข์ขึ้นไปเรื่อยๆ จากหนุ่มจากสาวก็ต้องมีคู่มีเรือนมีลูกมีสามี ไม่รู้สามีจะดีจะชั่วอย่างไงก็ไม่รู้มัน เคยเห็นตอนหนุ่มๆ ก็ดี แต่งงานไปเละเทะปล่อยเนื้อปล่อยตัว นิสัยที่เคยกระด้างอายก็หมดยางอายไปเสียแล้ว เมาหัวราน้ำพูดจาหยาบคาย ส่วนมากจะเห็นมันเปลี่ยนแปลงไปในสิ่งที่ไม่ดีกันทั้งนั้น ไม่ใช่ว่าเจอกันตอนแรกๆ นิสัยไม่ดี พอแต่งงานอยู่ด้วยกันไปนานเข้า ยิ่งดีขึ้น ดีขึ้น ไม่เคยเห็นมีคำกล่าวอย่างนั้น มีแต่ดี๊ดีมันดีถึงได้แต่งกับมัน ถึงได้อยู่กับมัน หรือได้ตัดสินใจหนีตามไปกับมัน ไม่ได้แต่งก็ไม่ว่า เพราะมันดี พอเดี๋ยวนี้โอ้โห มันก็อ้างอยู่นั่นแหละว่าฉันหนีตามมันมา มันไม่เกรงใจฉันเลย ไม่เกรงใจญาติฉันเลย

...

ทุกข์...ตายไปเสียก่อนไม่ต้องมารอความทุกข์เหล่านี้ ไม่ต้องมาเสี่ยงหัวเสี่ยงก้อย มันก็มีคุณ สิ่งใดมีโทษก็ย่อมมีคุณ ถ้าคิดอย่างนี้ก็จะบรรเทาความทุกข์ไปได้บ้างมั้ง ไม่งั้นมันเอาแต่จะทุกข์อย่างเดียว เอ๊า...อยู่ๆ มา ติดเตียงซะแล้ว ถ้าตายไปก่อนที่จะติดเตียงก็สบายกว่านี้เนอะ ไม่ต้องมีใครมาลำบาก แผลกดทับเน่าเหม็นไปหมด ไปไหนมาไหนก็ไม่ได้ การอยู่เสียอีกเป็นทุกข์มากกว่าพวกที่ตายไปแล้ว

...

การคิดอย่างนี้ก็ถือว่าเป็นธรรมะเป็นความจริง เป็นธรรมชาติของมนุษย์ของชีวิต อะไรมันจะเกิดก็ต้องเกิด เมื่อเกิดแล้วจบ วางนั่นเอง จบคือจบ…วาง ไม่มาพิร่ำพิไร รำพัน อุปายาส ถ้าอยู่นะลูกเราก็ต้องเท่านี้ ถ้าอยู่ป่านนี้ก็คงจะเท่านี้ เออ...มันก็อยู่อย่างงั้นล่ะ อย่างนี้เขาเรียกว่า อุปายาส รำพึงรำพัน ทุกข์ จะทำอย่างไรกับกิริยาพิร่ำพิไรรำพัน...วาง มันดับไปแล้ว มันจบไปแล้ว ลิเกเลิกแล้วเก็บฉากแล้วยังมาร้องไห้ถึงพระเอกนางเอกอะไรอยู่อีกเล่า วาง ธรรมะของพระพุทธเจ้า ความจริงที่พระพุทธเจ้าบอกไว้จะไปแก้ไขคือให้ปล่อยวาง สิ่งทั้งหลายเกิดขึ้น สิ่งทั้งหลายตั้งอยู่ขณะหนึ่ง แล้วสิ่งทั้งหลายก็ดับไป เป็นเช่นนี้เหมือนกันหมด ถ้าเราได้ธรรมะนี้เราก็จะไม่ทุกข์ เราก็จะวางความทุกข์นั้นได้ ทุกข์ปุ๊ปพิจารณาแล้วก็วางปั๊ป วางได้

...

แม้เราเองที่กำลังทุกข์อยู่ต่อไปก็ต้องตายเหมือนกับเขา เมื่อเราตาย ถ้าเรามีสติเราจะต้องบอกคนหลังๆ ไว้ก่อน ถ้าฉันตายก็อย่ามาร้องห่มร้องไห้กับฉันนะ อย่ามาพิร่ำพิไรรำพึงรำพันอะไรกับฉัน ฉันตายเป็น ฉันวางแล้ว แล้วพวกแกทั้งหลายที่ตายทีหลังฉัน มันก็ต้องตายเหมือนกันหมด จะไม่มีใครขาดทุนไม่มีใครกำไรหรอก เพราะมันตายกันคนละครั้งเท่ากัน ตอนก่อนตายหลังอย่าไปคิดว่าได้เปรียบเสียเปรียบเลย มันตายได้คนละหนึ่งหนเหมือนกัน ยกเว้นน้อยรายนักที่ตายแล้วฟื้น แต่ในที่สุดก็ต้องเจอตายจริง

...

การตายเป็นธรรมดานะเธอ เป็นธรรมชาตินะ แต่ฉันแอบอธิฐานไว้ในจิตในใจ ขอให้บุญและกุศลมาช่วยหน่อย ถ้าอยู่แล้วร่างกายนี้ใช้ประโยชน์ไม่ได้ ถ้าจะอยู่ด้วยการต้องเบียดเบียนคนอื่นๆ ล่ะก็ฉันไม่ต้องการสังขารร่างกายที่ทุพพลภาพ ที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ให้ตายปัจจุบันทันด่วนปุ๊ปปั๊ปไปเลย จะหัวใจวาย จะไตวาย จะสะอึกตายอย่างไงก็ได้ แต่อย่าให้ใครๆ ต้องมาเสียเวลาในการพลิกซากฉันไปพลิกซากฉันมา อันว่าถ้าฉันเคี้ยวไม่ได้ก็อย่าเอาอะไรมาหยอดนะ แสดงว่าหมดเวลาที่ฟันที่ลำไส้ฉันต้องทำงานแล้ว แกอย่าฝืนนะ ก็อธิษฐานไว้อีก

...

หลายๆ คนเห็นไหม เขาอาจจะอธิฐานมาหลายชาติแล้วก็ได้เขาตายไปในอัตภาพที่แข็งแรงดี ฉับพลันทันด่วนเลย อุบัติเหตุก็ดี อยู่ๆ ไปโดดน้ำเล่นน้ำแล้วดันมีตะคริวกิน จมน้ำตาย นั่นก็ไม่ใช่ว่าเขาทำบาปทำชั่วนะ เขาตายไปในขณะที่ไม่เบียดเบียนคนอื่นๆ เลย ตายไปในขณะแข็งแรงดี กำลังยังมีความสุขอยู่ในน้ำเย็นๆ ตายโหงเขาว่าไม่ดี เขาไม่ใช่พระพุทธเจ้าอย่าไปเชื่อมัน พระพุทธเจ้าไม่ได้บอก อันไหนตายโหงไม่ดี อันไหนตายห่าถึงจะดี ไม่มี ตายอายุเท่านี้ถึงจะดี ตายอายุเท่านั้นไม่ดี ไม่มี ไม่เคยตรัส เพียงแต่ว่าก่อนตายให้ทำความดีก็แล้วกัน จุดใหญ่ใจความอยู่ตรงนั้น ก่อนที่จะตายได้ทำความดี เอาไว้ให้เพียงพอต่อการที่จะไม่ต้องมาเวียนว่ายตายเกิด รับความทุกข์อีก อยู่ตรงนั้น

บรรยายธรรมเมื่อวันที่ ๑๙ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๒