การนั่งสมาธิและเดินจงกรม เป็นการเจริญสติ จิตเมื่อมีความนิ่งมีความสงบเกิดขึ้น จะคิดจะพิจารณาสิ่งทั้งหลายได้ละเอียดลออขึ้น (ธัมมวิจยะ) จะมีตัวรู้หรือตัวปัญญาผุดขึ้น เมื่อมีปัญญา...จะรู้ถูกรู้ผิด เลิกทำบาปทำชั่วตั้งแต่นั้น แต่การทำทาน เมื่อให้ทานเสร็จแล้วก็แล้ว ยังไม่มีความสงบไม่มีความนิ่ง เมื่อไม่มีกำลังจากความสงบ ก็เลยยังไม่เกิดซึ่งการวินิจพิจารณา ยังไม่รู้จักแยกแยะที่ละเอียดขึ้น จิตจึงยังไม่สามารถจะถอนนิสัยเดิมๆ หรือความเห็นผิดเก่าๆ ออกไปได้ ก็เลยว่าคนละชั้นกัน
...
คนหนึ่งให้ทานไปหนึ่งล้านบาท กลับไปก็ยังไปทำบาป ประพฤติผิดประพฤติชั่ว ด่าคนโน่นด่าคนนี้ กับอีกคนหนึ่งนั่งสมาธิเกิดสตินิ่งสงบ ทบทวนถึงการกระทำทั้งหลาย เราไปว่าคนนั้นให้ร้องไห้เจ็บอกเจ็บใจ เราก็ว่าเอา ว่าเอา เขาไม่โต้ไม่เถียงเราสักคำ ไม่กล้าที่จะเอาชนะคะคานเราได้ เราด่าเก่งกว่า เราเหนือกว่า แต่แท้ที่จริงแล้วเราก็ผิด เรานี่เลวเหลือเกิน เรานี่ไม่ดีเลย คงช้ำอกช้ำใจทุกข์อยู่หมองอยู่ เดี๋ยวจะไปขอโทษเสียหน่อย...
...
ต้องนั่งนึกนานๆ ระลึกนิ่งอยู่นานๆ ความผิดต่างๆ ทั้งหลาย ที่เราทำมาแต่ในอดีตจะปรากฏจะระลึกได้ เรียกว่ามีอาทีนวญาณ ญาณที่ทบทวนความผิดเก่าๆ แล้วมานั่งสำนึก คนที่นั่งสมาธิแล้วน้ำตาร่วงคืออย่างนี้ ระลึกผิดได้ สำนึกผิดได้ ปฏิบัติไปเรื่อยๆ เถอะ จะต้องได้เห็นเป็นเช่นเดียวกันหมด แต่ละรายที่มาปรารภด้วยจะเป็นอย่างนั้น