คิดเป็น เห็นธรรม

คิดเป็น เห็นธรรม คิดเป็น เห็นธรรม

สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่า การไปคอยนั่งเอาอกเอาใจคนอื่นๆ คือการทำไม่ให้ใจตัวเองขุ่นมัว

  • 2024,Mar 28
  • 2696

พระพุทธเจ้าท่านสอน ทำอะไรก็ได้ที่ดี อย่าทำซึ่งความชั่วความผิด แม้จะเล็กน้อยก็อย่าทำ … ทำจิตใจให้ผ่องใสไว้ มีใจกับเขาอยู่ดวงหนึ่งบริหารให้สมบูรณ์แบบ ว่าอย่าทำให้ตัวเองขุ่นมัว ไม่จำเป็นหรอกต้องไปคอยนั่งเอาอกเอาใจคนอื่นๆ แต่ที่จำเป็นอย่างยิ่ง เมื่อเกิดมาเป็นมนุษย์ ทำตัวเองให้ผ่องใสอยู่เสมอ…ได้ไหม ตรงนี้ต่างหาก สำคัญยิ่งกว่าที่จะไปนั่งเอาอกเอาใจใครๆ หรือจะไปนั่งจับผิดใคร คนนั้นชั่ว คนนี้ไม่ดี คนนั้นไม่ถูก จับจิตตัวเองคนเดียวนี่แหละให้ได้

...

วันนี้แกขุ่นมัวหรือผ่องใส ? … ผ่องใส ตอบตัวเองไว้ให้ได้ทุกวันว่าผ่องใส เรื่องที่จะทำให้ขุ่นมัวมีไหม .. ไม่มี เรื่องที่จะทำให้ขุ่นมัว คือเรื่องที่เราไปเบียดเบียนใครมาไหม … ไม่มีเบียดเบียนใครเลยวันนี้ เบียดเบียนด้วยกายมีไหม … ใช้มือใช้ขาไปทำให้เขาเจ็บเขาปวด … ไม่มี

...

วาจาล่ะไปพูดให้ใครเขาน้อยเนื้อต่ำใจ ทุกข์ใจ มีไหม …ไม่มี ไม่ทำชั่วทางวาจา มีแต่ไปพูดดี โอ้คนนั้นเขาทุกข์อยู่ ไปคุยไปคุยมา เออเห็นเขารื่นเริงหายทุกข์ … ใช้ได้ ตรวจได้ว่าเราจะผ่องใสไหม ? ควรจะผ่องใสไหม ?

...

ตรวจดูว่าเราไปทำชั่วอะไรมาไหมล่ะ ? ทางกาย ทางวาจา จิตใจ วันนี้มีไหม ? อาฆาตพยาบาทจองเวร อิจฉาริษยาใครๆ สาปแช่งใคร มีไหม … ไม่มี ตำหนิมีไหม … มี ตำหนิคนที่ทำชั่ว มันมักจะตำหนิอยู่เนืองๆ ถ้าทราบข่าวของมนุษย์ทำชั่วอันโน้นอันนี้มีตำหนิ เฮ้อ คนนี่เน้อยังทำชั่วอยู่อีก แทนที่จะทำดีกลับไปทำชั่วเสียนี่

...

ตำหนิในสิ่งที่ควรตำหนิเป็นสัมมาทิฐิ แปลว่าถูกต้อง ไม่ผิด โอ้ย วันนี้ฉันไม่ตำหนิใครเลย อือ ไม่ตำหนิใครเลยก็แล้วไป แต่ทราบเรื่องนั้นเรื่องนี้ว่าคนนั้นทำดีทำชั่ว แล้วมันต้องมีการตัดสิน มันจะต้องรู้ว่าถูกหรือผิด ผิด นี่เรียกว่าตำหนิ รู้ดีรู้ชั่วแต่ไม่ได้อาฆาตพยาบาทจองเวร ไม่มีความเดียดแค้นใดๆ .. ใจมันก็ผ่องใส แค่นี้ แค่นี้

...

ในหลักธรรมของการใช้ชีวิตโดยสรุปแล้วของพระพุทธเจ้า ให้ตรวจแค่เพียงเท่านี้ สามข้อนี้ สรุปมาแล้วจากแปดหมื่นสี่พันพระธรรมขันธ์ จากพระไตรปิฎก เก้าสิบเล่มสี่สิบห้าเล่ม แล้วแต่เล่มหนาเล่มเล็ก อันนั้นแล้วแต่เฮอะ แต่ถ้าสรุปทั้งหมดทั้งสิ้นจากเล่มหนาๆ เต็มตู้อยู่นี่ เอาพอจะสั้นๆ มีไหม มันจะเหลือเท่าไหร่ เหลืออย่างเดียวที่บอก “ อะไรที่เป็นความชั่วอย่าทำ ให้ทำแต่สิ่งที่ดี แล้วก็ทำใจตัวเองให้ผ่องใสไว้ แค่นี้ ทั้งตู้เหลือแค่นี้ ” …

...

คนอ่านหนังสือไม่ออกก็กระหยิ่มยิ้มย่องเลย อ่อแหมฉันคิดแล้ว เมื่อก่อนนี่แหมเราอ่านหนังสือไม่ออก ไม่ได้เรียนหนังสือ ไม่งั้นเราจะได้รู้เรื่องของพระพุทธเจ้าบ้าง ว่าท่านสอนอะไรอย่างไร โชคดีท่านสรุปไว้ให้แล้ว ทั้งหมดทั้งสิ้นคือแค่นี้ แค่นี้แหละ “หัวใจ” …

บรรยายธรรมเมื่อวันที่ ๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๓