ที่ชื่อว่าพญายมไม่ใช่สมมติเอา มีจิตมีวิญญาณมีตัวมีตนเขาอยู่จริงๆ จะทำหน้าที่คอยสอบสวนมนุษย์ชายก็ดีหญิงก็ดี ที่ประพฤติกายทุจริต วาจาทุจริต ใจทุจริต หรือพวกที่ประพฤติก้ำกึ่งดีชั่ว
...
พญายมจะคุยอะไรด้วยหรือ ? เป็นสูตรตายตัวเลย ไม่ว่ายุคไหนสมัยไหนพญายมก็จะถามถึงเทวทูตหรือเครื่องหมายแห่งความตาย ๓ ประการ
...
{ เทวทูตประการที่ ๑ } เธอได้เคยเห็นเทวทูตที่ ๑ ไหม…ไม่เคย อะไรหรือเทวทูตที่ ๑ เธอเคยเห็นมนุษย์ที่แก่ชราไหม มีผมหงอก มีหลังงอ มีคอคด มีหนังย่น มีนมยาน มีกายสังขารที่ไม่งามด้วยวัย…เคยเห็นไหม…เคย
...
นั่นแหละเทวทูตที่ ๑ เมื่อเธอเคยเห็น เธอเคยคิดบ้างไหมว่าแม้ตัวเธอเองก็จะต้องเป็นเช่นนี้ หากเคยคิด มีประโยชน์จากการที่ได้เห็น ถ้าคิดแล้วจะสลดสังเวชหรือไม่ ถ้าสลดสังเวชก็ใช้ได้ แต่ถ้าไม่สลดสังเวชก็จะตอบตามตรงว่าไม่สลดสังเวช จะโกหกไม่ได้ ถ้าสลดสังเวชทำไมยังตั้งหน้าตั้งตาทำกรรมชั่วอยู่ ตรงนี้แหละที่หลอกไม่ได้ ที่เธอทำกรรมชั่ว เพราะเธอเห็นภาพคนชราแล้วเธอก็ไม่สังเวชไม่สลดหดหู่ยังคงทำกรรมชั่วด้วยกายวาจาใจอยู่ จึงต้องยอมรับปฏิเสธไม่ได้
...
ในเมื่อเธอเห็นแล้วซึ่งคนชราคนแก่แต่ก็เธอยังประมาทอยู่ในกายวาจาใจ ไม่แก้ไขที่จะทำดี ถือว่าเธอประมาทเสีย กรรมชั่วนั้นๆ บิดามารดาไม่ได้ทำให้ พี่น้องไม่ได้ทำให้ มิตรสหายทั้งหลายไม่ได้กลั่นแกล้งให้เธอทำ เธอทำเองด้วยมือด้วยขาของเธอเอง ดังนั้นเธอจะต้องไปรับกรรมตามที่เธอประมาทนั้น ... เฉยอยู่…ไม่ปฏิเสธ
...
{ เทวทูตประการที่ ๒ } พญายมยังมีคำถามต่ออีกเผื่อว่าจะมีความดีในส่วนอื่น เธอเคยเห็นเทวทูตที่ ๒ ไหม…ตอบว่าไม่เคย เพราะไม่รู้จัก เธอเคยเห็นคนป่วยคนเจ็บไหม นอนจมอยู่ในคูถในน้ำมูตรที่เปียกที่แฉะของตัวเอง จะยันกายลุกขึ้นหนีก็ไม่มีแรง เคย…ตอบว่าเคยเห็น
...
เมื่อเธอเคยเห็นเธอคิดบ้างไหม ว่าแม้เราเองก็อาจจะได้รับความป่วยความเจ็บไข้อย่างนี้ก็ได้ เพราะคนนี้ที่เราเห็นอยู่นี้เมื่อก่อนก็แข็งแรง อยู่ๆ ก็ป่วยลงเจ็บขึ้นโดยเจ้าของไม่ได้ปรารถนา เคยเห็นแต่ประมาทเสีย ไม่สลดสังเวชที่จะหลีกหนีด้วยการทำกรรมดี ยังคงประพฤติกายทุจริตวาจาทุจริตใจทุจริตด้วยตนเองอยู่นั่นแหละ วงศาคณาญาติทั้งหลายไม่ได้ทำให้เกิดขึ้น เธอทำของเธอเอง เธอก็จะต้องรับผลแห่งความประมาทด้วยตนเอง เงียบ…
...
{ เทวทูตประการที่ ๓ } พญายมจะช่วยต่อ เธอเคยเห็นเทวทูตที่ ๓ ไหม ตอบว่าไม่เคย ทั้งที่เคยเห็นอยู่ แต่เพราะไม่มีธรรมะชี้นำ เพราะไม่รู้จึงตอบว่าไม่เคย
...
เธอเคยเห็นคนตายไหม เคยได้ทราบถึงคนที่ตายไหม ตายแล้ววันหนึ่งบ้าง สองวันบ้างสามวันบ้าง สภาพของศพเย็นแข็ง เขียวคล้ำ อืดพอง น้ำหนองไหล เป็นขั้นตอนไป เคยเอามาคิดมาพิจารณาว่าตัวเองเมื่อตายไปก็จะต้องเป็นเช่นนี้ๆ เหมือนกัน เคยคิดสลดสังเวชบ้างไหม…ไม่เคย
...
ปรากฏว่าบุคคลผู้นั้นเคยเห็นเทวทูต ๓ ประการทั้งหมด ทั้งคนชราคนแก่ ทั้งคนป่วยคนไข้ ทั้งคนตาย แต่เขาไม่เคยสลดสังเวช ไม่เคยคิดว่าตนเองจะต้องแก้ไขปรับปรุงทำแต่กรรมดี ประมาทเสีย ที่พระพุทธเจ้าเตือนว่าอย่าประมาท หมายถึงประมาทตรงนี้ไม่ใช่ประมาทตรงอื่น ประมาทอย่างนี้ต่างหากจึงต้องลงอบายภูมิมาเจอกับพญายม…
บรรยายธรรมเมื่อวันที่ ๒๔ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๙