คิดเป็น เห็นธรรม

คิดเป็น เห็นธรรม คิดเป็น เห็นธรรม

แม้จะเป็นการคลุกคลีกับผู้ประพฤติปฏิบัติธรรม ซึ่งไม่เป็นไปเพื่อการทำความเพียร ไม่เป็นไปเพื่อการรู้แจ้ง เห็นความจริง ก็ไม่ควรคลุกคลี

  • 2024,Nov 23
  • 2818

องค์ประกอบในการที่จะพิจารณาให้เกิดปัญญา ต้องมีความไม่คลุกคลีประกอบไปด้วย และ ไม่ใช่ไม่คลุกคลีกับโลกอย่างเดียว แม้จะเป็นการคลุกคลีกับผู้ประพฤติปฏิบัติธรรม ซึ่งไม่เป็นไปเพื่อการทำความเพียร ไม่เป็นไปเพื่อการรู้แจ้ง เห็นความจริง ก็ไม่ควรคลุกคลี ดังนั้น ความวิเวกนี่สำคัญ

...

ทำไม ? ไม่ชนมันเลย ชนไม่ได้ แข็งแกร่งแข็งแรงยังไม่พอ ชนไม่ได้ ไปชนมันเดี๋ยวมันกลืนไปด้วย จิตยังไม่แข็งพอไปคุยกับคนที่ยังมีกิเลส พลอยมีกิเลสตามเขาไปด้วย อ่อนไหวอ่อนเอียงตามไปด้วย กำลังเรายังไม่พอ ที่จะคุยได้ ก็ต้องรู้กำลังตัวเอง

...

ถ้ากำลังเรามากเพียงพอมาก ไปคุยกับคนที่มีกิเลส ไปคุยจนกระทั่งมันละกิเลส อยากจะเข้าสู่ในทางธรรม อยากจะปฏิบัติ ธรรม อยากจะบวชอยากจะวิเวก เออ ถ้ารบก็ต้องรู้ว่ามันต้องชนะ ถ้าคุยก็ต้องรู้ว่าเรานั้นจะไม่อ่อนกว่า ยังถูกครอบงำด้วยคู่สนทนาที่ยังมีกิเลส คุยกับคนที่โลภ มันก็มักจะชักชวนอยากได้โน่นอยากได้นี่ ชักชวนให้สะสมสิ่งนั้นมีสิ่งนี้ เออออไปด้วย ตกหลุมพราง อย่างนี้เรียกกำลังไม่พอ พลอยอยากได้ไปด้วย

...

แต่ถ้ามีกำลังพอ อยากได้โน่นอยากได้นี่ เอาไปทำไม๊ ก็จะตอบอย่างนี้ เอาไปก็ไม่มีประโยชน์ ตายแล้วก็เอาไปไม่ได้ มันก็จะหนักแน่นอย่างนี้ ถ้าเรามีกำลังพอ ของไม่จีรังยั่งยืน ของสมมุติ ตะเกียกตะกายได้มา ตายก็เอาไปไม่ได้ มีไว้ก็ลำบากลำบนอีกจะต้องคอยระแวดระวังรักษา ต้องคอยดูแล เพิ่มงานเพิ่มภาระอีก ไม่เอาล่ะ ถ้าอย่างนี้รู้จักโต้ตอบมันบ้าง แสดงว่า เออ มีแข็งแรงแข็งแกร่ง ไปตกเป็นทาสของกิเลสมันไปด้วย ดังนั้นถ้าคุยก็ต้องมีกำลังพอ รู้ว่าชนะถึงค่อยคุย ถ้าเรื่องนั้นไม่เป็นไปเพื่อศีล เพื่อธรรมะ เพื่อความเพียร เพื่อการพ้นทุกข์ เพื่อการห่างจากกิเลส

...

ถ้าคุยแล้วทำให้เกิดความขยัน ทำให้อยากจะทำความเพียร ทำให้อยากจะปฏิบัติ อยากจะทำสมาธิ อยากจะเข้าสู่ในทางธรรม นั่นเรียกว่าเป็น เรื่องที่คุยได้ควรคุย เขาเรียก “กถาวัตถุสิบ” กถาวัตถุ คือ เรื่องที่คุยแล้วไม่เสียหายในทางธรรมนั่นเอง ผู้ปฏิบัติธรรมทั้งหลายจะต้องรู้เรื่องที่จะคลุกคลี เรื่องที่จะสนทนา ถ้าอยากทำให้เกิดความรู้ความแจ่มแจ้ง ได้รับมรรคผลในทางธรรมแล้วล่ะก็ ต้องรู้จักเรื่องที่คุยได้คุยไม่ได้ พระพุทธเจ้าสอนเรื่องนี้ด้วย

...

ทำไมมาปฏิบัติไม่ก้าวหน้าเลย วันๆ คุยแต่เรื่องอะไรก็ไม่รู้ คลุกคลีเรื่องอะไรก็ไม่รู้ ไม่ได้คุยกันเรื่องฌานเรื่องญาณ ไม่ได้คุยกันเรื่องศีลสมาธิภาวนาอะไรเลย แล้วแกจะไปถึงไหนเล่า คุยแต่เรื่องคนนั้นสวย คนนี้งาม คนนั้นรวย คนนั้นจน คนนั้นเก่ง คนนั้นไม่เก่ง เรื่องเหล่านี้ไม่พ้นทุกข์ คุยไปก็ไม่พ้นทุกข์ ! ...

หลวงพ่อเฉลิมโชค ฉันทชาโต
บรรยายธรรมเมื่อวันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2556