คิดเป็น เห็นธรรม

คิดเป็น เห็นธรรม คิดเป็น เห็นธรรม

เพราะกฏแห่งกรรมจำเราได้ เราจึงต้องแก้ไขด้วยวิธีของพุทธะ

  • 2024,Dec 03
  • 3344

การเสริมชะตา เสริมชีวิต เสริมราศีทั้งหลาย วิธีของพุทธะ พระพุทธเจ้าท่านบอกไว้แล้ว แต่คนไม่ได้ใคร่ครวญ ไม่ได้ตรึก ก็เลยหาว่าพระพุทธเจ้าหรือศาสนาพุทธไม่เห็นสอนวิธีเหล่านี้ โน่นไปหาหมอผีหมอมดอะไรก็ไม่รู้ล่ะ หาอะไรมาพันแขนพันคอกันไว้อีรุงตุงนังเชียว ด้ายดำปึ๊ด ไม่ใช่หรอก วิธีการคืออันนี้ พระรัตนตรัยนี่แหละ คือแก้สิ่งที่ร้ายให้กลายเป็นดี แล้วก็ไม่ต้องยากไม่ต้องลำบากในการที่จะกระทำตาม ง่าย ศีล สมาธิ สติปัญญา เดินจงกรมน่ะสติ เดินมากๆ จะเกิดปัญญา คิดเรื่องโน้นออก แก้ไขเรื่องนี้ได้ บังเอิญหรือว่าฟลุ๊คในหลายๆ เรื่องที่ไม่เคยบังเอิญ ที่ไม่เคยฟลุ๊ค ใช้คำแสลงอย่างนั้น

...

แต่จริงๆ แล้วพระพุทธเจ้าบอกไม่มีอะไรที่จะเกิดขึ้นโดยบังเอิญหรือว่าฟลุ๊ค ทุกอย่างเกิดจากเหตุผลของมันเอง การที่เราได้รับผลดี ก็เพราะเหตุเราทำความดีเอาไว้ มาตอบแทนมาส่งผล เหตุที่เราต้องรับความทุกข์ทางกายด้วยความเจ็บป่วย ทางจิตใจด้วยการถูกบีบคั้น ถูกความไม่สมหวังบีบคั้น นั่นก็เป็นเพราะผลแห่งกรรมชั่วที่เราทำไว้กำลังส่งผล ไม่เคย ฉันไม่เคยทำชั่วอะไรเลย มาส่งผลกับฉันได้อย่างไร ถ้าเช่นนั้นก็คงเป็นกรรมชั่วที่แม้เธอเองก็ระลึกไปไม่ถึง อาจจะเมื่อหลายปี เมื่อสี่สิบห้าสิบปีจนกระทั่งเจ้าของก็จำไม่ได้แล้ว โอ้ก็ใครจะไปจำล่ะตั้งสี่สิบปีห้าสิบปี ก็นั่นน่ะสิ ก็เจ้าของเองมันยังไม่จำ แล้วใครจะมาจำแทนล่ะ แต่กฏแห่งกรรมมันจำเธอได้ ผู้ถูกที่เธอกระทำไว้มันจำเธอได้ ถึงเธอจะจำมันไม่ได้ก็เถอะ แต่มันน่ะจำเธอได้ เคยสร้างความทุกข์ไว้กับฉัน เคยแกล้งฉันไว้ ทรมานฉันไว้ บีบคั้นฉันไว้ ลืมเหรอ ไม่เป็นไร แกลืมไม่เป็นไรแต่ฉันไม่ลืมหรอก กรรมมันไม่ลืม

...

โอ้แสดงว่าเขาอาฆาตอยู่ใช่ไหม คนที่ถูกเรากระทำเขาอาฆาตเราอยู่ใช่ไหม ไม่ใช่หรอก ไม่ใช่เพราะเขาอาฆาตด้วย แต่มันเป็นระบบของจักรวาล ที่เป็นคนคอยลงโทษเธอเอง คนที่เธอทำผิดด้วย เขาอาจจะไปเป็นเทพเทวดาแล้ว ไม่รู้ด้วยว่าเรามาเกิดเป็นมนุษย์อยู่ เป็นเทวดาเขาก็ไม่ได้คิดว่าใครเคยกลั่นแกล้งอะไรเขาไว้ เมื่อเป็นเทวดาเขาก็เสวยสุขอยู่ในเทวโลก แต่คนที่กลั่นแกล้งตอนนี้เป็นมนุษย์อยู่ จากการที่เคยแกล้งบุคคลคนนั้นไว้ ตัวเองจึงต้องรับทุกข์ ไม่ใช่เพราะเทวดาเจ้าของที่ถูกเราแกล้งนั้นอาฆาต ไม่ใช่ แต่เพราะผลแห่งการกระทำนั่นเองต่างหาก อันควรจะส่งผลแก่เธอได้แล้ว มันเป็นบทลงโทษของจักรวาลจึงว่าเราหนีไม่ได้ ถึงเราจำไม่ได้ กฎจักรวาลไม่ลืม เราไม่ได้ทำความดีหนี มันก็ทัน ถ้าเกิดไปทำความดีอะไรขึ้นมา สักเจ็ดแปดอย่างนึง เออ มันก็เลยยังไม่ตาม

...

ถ้าหยุดกรรมดีเมื่อไหร่โอกาสที่กรรมชั่วจะตามทันก็มีมากขึ้น จึงเห็นชีวิตบางคนมีแต่เรื่องร้ายๆ ชั่วๆ นั่นเป็นเพราะคนๆ นั้นไม่เห็นทำความดีอะไร มันก็เลยกรรมชั่วทั้งปวงเรียงแถวมาเป็นดอกเห็นเชียว เสร็จจากหัวแตกก็เป็นแขนหัก แขนยังไม่ทันจะถอดเฝือก เอาอีกแล้วน้ำร้อนลวกขาอีก เออ ไม่ว่างกันล่ะแก 

...

อันนี้ยกตัวอย่างที่ว่ากรรมมันตามมาส่งผล ตัดนิ้วทิ้งก็ยังไม่หาย อีกสามเดือนต้องตัดที่ข้อเท้า ตัดที่ข้อเท้าเสร็จไม่หาย อีกหกเดือนต้องตัดที่หัวเข่า ตัดมันสูงขึ้นมาเรื่อยๆ มันยังไม่หยุดลุกลาม กรรม กรรมยังไม่หยุดลุกลาม ถ้ามันหมดเมื่อไหร่มันก็หายตรงนั้นเลยนะ หายตรงนั้นเลย แต่ถ้ายังไม่หมด มันพร้อมจะลามไปได้เลย จนกระทั่งสุดต้านทานด้วยสังขารร่างกายนี้ตัดรอน ตาย ตายแล้วหมดกรรมไหม หมดหรือยัง ที่ชดใช้ให้จนกระทั่งเจ้าของถึงตายนี่ เรียกว่าหมดกันหรือยัง หมดก็ได้ ไม่หมดก็ได้ ยากแท้ที่จะหยั่งถึงอีกเหมือนกัน อ้าวก็ขนาดยอมตายให้แล้วยังไม่หมดอีกหรือ ฮึ แกไม่ได้ยอมตายหรอก มันทนไม่ไหว มันต้องตายเองต่างหาก เกิดอีก เอาอีกแล้วรับใหม่เลย ป่วยตั้งแต่เด็ก กรรมชั่วยังส่งผลต่อ ก็เกิดมาเป็นเด็กยังไม่ได้ทำผิดอะไรเลย เป็นแล้ว หืด หอบ ปอด หอบผอมเหลือง ดีซ่าน ดีกำเริบ ถ้าว่าใครเป็นตั้งแต่แรกเกิดแรกคลอด นั่นแหละกรรมต่อเนื่อง เพราะของใหม่ยังไม่ได้ทันทำผิดเลย วจีกรรมก็ยังไม่ทันได้ด่าใครเลย มือขายังเดินไม่ได้เลยจะไปตีใครด้วยมือด้วยขา ยังลุกขึ้นทำชั่วไม่ได้เลย มันติดมาตั้งแต่อดีตชาติ นั่นก็เรียกว่ากรรมส่งผล

...

เมื่อพิจารณาตลอดสายอย่างนี้ มันถึงจะทำให้เราเชื่อเรื่องบุรพกรรม คือกรรมแต่ปางก่อน กรรมแต่อดีต เป็นผู้ส่งผล นั่นคือกรรมจากของที่เห็นตั้งแต่เด็ก แล้วมันจะไม่มีเชียวหรือกรรมที่จะส่งผลเมื่อตอนที่เราเป็นผู้ใหญ่ มันก็ส่งผลมาตลอด เราต้องเจ็บไข้ได้ป่วยมาตามประสาเด็ก ตามประสาหนุ่มสาว ตามประสาคนกลางคน คนปลายคน มันส่งผลได้หมดทุกวัยของเรา มีความทุกข์พร้อมจะเสนอเข้ามาบีบคั้น ทั้งที่เราไม่ปรารถนา ไม่ยินดี ใครเล่าจะปรารถนาป่วย ไม่มีหรอก แต่จำก็ต้องรับ อาศัยฟังธรรมของพระพุทธเจ้า การแก้ไขกรรมเหล่านี้ให้หยุดจองเวร จองกรรมกัน เอาชนะกรรมชั่วด้วยการทำกรรมดี วิธีแก้ไข ชนะกรรมชั่ว กรรมแปลว่าการกระทำ ชนะการกระทำที่ชั่ว สิ่งที่ชั่ว เรื่องที่ชั่วๆ เลวๆ ด้วยการทำเรื่องที่ดีๆ ทำสิ่งที่ประเสริฐ นั่นคือการแก้ไข

...

อะไรที่มันดีทำไปเถอะ อะไรที่ทำแล้วเลิศที่ประเสริฐ ทำไปเถอะ อย่าถามเลยว่าทำไปแล้วได้อะไร จะมีผลตอบแทนไหม ต้องมีแน่ๆ ถึงเจ้าของจะรู้หรือไม่รู้มันก็ตอบแทนแน่ๆ แก้ไขกรรมชั่วด้วยการทำกรรมดี ป่วยการที่จะถามว่ากรรมดีอะไรหรือ เรื่องที่ดี ทำแต่เรื่องที่ดี พูดก็พูดแต่คำที่ดี คิดก็คิดแต่สิ่งที่ดี นี่แหละเรียกว่ากรรมดี

...

กรรมดีทางกาย ทางวาจา ทางใจ ทั้งสามทางเลย อย่าเลือกทำเฉพาะกรรมทางกาย ปล่อยควายแล้วจบกัน วจีกรรมล่ะไม่ได้แก้ ยังคงเป็นคนพูดปากคอเราะร้าย พูดคำหยาบ พูดคำเท็จ ลามกส่อเสียดเข้าไปวันๆ ปล่อยควายทั้งฝูงก็ไม่หาย เพราะไม่ได้แก้ไขที่เจ้าของ นี่แก้ที่กาย ที่วาจา และใจของเจ้าของนี่ ถ้าไม่อย่างนั้นเหมือนกับหลวงพ่อที่เป็นพระ ก็มีที่ทำกรรมชั่วกับเขามาเหมือนกันแหละ หลวงพ่อก็ต้องปล่อยควายสิ จะปล่อยได้อย่างไรล่ะ พระห้ามมีทรัพย์จะเอาทรัพย์ที่ไหนไปซื้อควายซื้อวัว กับเขาล่ะ กรรมชั่วก็ต้องคาอยู่อย่างนี้สิ

...

วิธีการแก้จริงๆ แล้วก็คือ ทำกรรมดี ทางกาย ทางวาจา ทางใจ ของแต่ละคนที่เป็นเจ้าของเอง ตรงนั้นต่างหาก แล้วก็กรรมใหม่อย่าทำ เช่นพวกเจ็บป่วยทั้งหลายอย่าทำปาณาติบาต เหตุที่เจ็บป่วยถูกตัดโน่นตัดนี่ ป่วยอยู่ในสังขารร่างกาย นั่นเป็นเพราะกรรมจากศีลข้อหนึ่ง เราเคยฆ่าสัตว์ตัดชีวิตเบียดเบียนสังขารร่างกายผู้อื่นสัตว์อื่นไว้ เหตุมันมาจากตรงนั้น การแก้ไขก็คืออย่าเบียดเบียนกายคนอื่น ด้วยกาย ด้วยวาจา เบียดเบียนกายคนอื่นด้วยวาจาคืออย่างไร พูดจนกระทั่งเขาไปฆ่าตัวตาย พูดให้เขาทำร้ายตัวเอง ยุยงส่งเสริมให้เขาประหัตประหาร ประทุษร้ายกันและกัน ยุให้เขาทะเลาะกัน ให้ตีกัน ให้ยิงกัน ให้ฆ่ากัน ด้วยปากด้วยจาจา นั่นก็ถือว่าทำชั่วด้วยวาจา เลิกทำ เลิกพูดซะ ที่พูดแล้วจะทำให้คนต้องเบียดเบียนกันทางกาย ถึงแม้เราไม่ได้ไปตีด้วยไปทุบด้วยไปฆ่าด้วย แต่เป็นเพราะคำพูดของเรา เขาเลยไปทะเลาะกัน นั่นก็ถือว่าเราทำสมบูรณ์แบบแล้ว

...

เราก็เลยหยุด หยุดทำชั่ว แล้วก็ทำดี หยุดก็หยุดด้วยกาย วาจา ใจ ทำดีก็ทำด้วย กาย วาจา ใจ นั่นคือการแก้ไขกรรมแบบพุทธะ ถ้าเราตั้งใจทำความดีเช่นนั้นอยู่เนืองๆ อุปกรณ์มีกันหมดแล้ว ทุกคนมีกาย ทุกคนมีวาจา ยกเว้นเสียแต่ว่าเป็นใบ้ น่าสงสารทำกรรมดีไม่ได้ด้วยวจีกรรม ขาดคุณสมบัติไปเสียอย่าง แต่ก็ทำทางกาย ทางใจไม่รู้จะคิดอย่างไรได้บ้าง ไม่เบียดเบียนใครล่ะกันก็ใช้ได้ แต่ถ้าเป็นใบ้แล้วก็ยังเบียดเบียนผู้อื่น ไปทำกรรมชั่วอื่นๆ อีก ทำให้คนอื่นเดือดร้อนอันนี้ก็ยิ่งไปกันใหญ่ ดังนั้นวิธีการแก้ไขกรรมชั่วทั้งหลาย พระพุทธเจ้าบอกไว้ละเอียดถี่ถ้วนแล้ว ไม่ต้องขวนขวายแสวงหาอื่นๆ แล้ว อุปกรณ์ของเรามีกันครบแล้ว กาย วาจา ใจ

สามารถฟังเสียงบรรยายธรรม ได้ที่นี่ค่ะ > https://youtu.be/JXcnehMt-Ws

บรรยายธรรมเมื่อวันที่ ๕ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๓