[ ตอบ ] การนั่งนิ่งๆ อย่างนั้นไปนั่งเอาเองอยู่แล้ว แต่การนั่งครั้งนี้นิ่งด้วย เอาปัญญาด้วย เอาเสียงพระเทศน์เป็นสิ่งที่ให้จิตเกาะ ถ้าไปนั่งเองจะเรียกว่านั่งนิ่งๆ จริงๆ แล้วไม่นิ่งหรอก ...โอ้โฮ ! เสียงจิ้งหรีดดังยิ่งกว่าเสียงพระเทศน์อีก... รู้อย่างนี้ฟังพระเทศน์ดีกว่า ยังรู้เรื่องบ้าง นี่เสียงจิ้งหรีดดังจี๊ดๆ อย่างเดียวไม่เปลี่ยนจังหวะบ้างเลย ...จี๊ดดด... มันร้องรับกันนะ ลองไปฟังในป่าเถอะ ที่พระไปเจอมาอย่างนี้เลย ...คิดผิด คิดว่าเข้าป่ามาวิเวก ที่ไหนได้หนักกว่าเก่า นี่แหละบาปกรรมของแกล่ะ นึกว่าจะหนีพ้นเหรอ ไม่พ้น...
...
เราก็เลยมาพิจารณาเรื่องเสียงว่าอย่างไรมันก็มีเสียง เสียงทั้งหลายเหล่านี้เราว่ารำคาญบ้าง เราว่าไม่รำคาญบ้าง จริงๆ เป็นความรู้สึกของเราเอง เสียงก็คือเสียง เราไปทำว่ารำคาญเอง ไปทำว่าชอบเอง จริงๆ แล้วคือความดังเหมือนกัน จะไม่เป็นเสียงพระเทศน์ ก็เป็นเสียงอื่นแทนได้ รถวิ่งปรู๊ดปร๊าดดังไปหมด ถ้าจิตเราจะสงบ มันไม่เกี่ยวกับเสียงเหล่านี้ ก็จะนั่งฟัง เสียงดังไป ถ้าเรานั่งดูลมหายใจไม่ได้เกาะที่เสียงเลย ...ปรืดดด... นี่มอเตอร์ไซต์แน่ๆ เดี๋ยวมาอีกล่ะ ...บรื้นนน... นี่ช๊อปเปอร์ มันรู้เลยนะ นั่งหลับตาอยู่วัดป่ากล้วย กุฏิอยู่ใกล้ถนนสายเอเชีย ดึกๆ นี่ชัดเลย ...หน้าวัดมันเป็นเนิน เดี๋ยวมาอีกละ ปลดเกียร์ว่างดิ่งลงมาไปถึงโน่นเลย...แป๊ดดด พรึบบบ...มาถึงกุฏิเราตรงนี้ ตายล่ะมั้งเฮ้ย !.. เราว่านะ ที่เราคิดว่าเราจะนั่งเฉยๆ ไม่ใช่ ...มากี่คันจำได้หมด ตั้งแต่หัวค่ำจนกระทั่งเลิกแปร๊น เรายังไม่หลับ ยังนั่งอยู่เลยนะ...
...
เสียงทั้งหลายก็อย่างนี้ เดี๋ยวมาอีกแล้ว โน่น...สะพานคุ้งตะเภาแม่น้ำน่าน เสียงสิบล้อดังนะช่วงกลางคืนนี่ ยิ่งดึกยิ่งได้ยินชัด ในคืนๆ หนึ่งแผ่นดินไหวไม่รู้กี่เที่ยว เขานอนหลับไม่รู้เรื่องกันหรอก มันไหวน้อยๆ ริกเตอร์ก็ยังจับไม่ได้ แต่เราจับได้ ดังกึกๆ ...เดี๋ยวพรุ่งนี้ฟังข่าวสิว่าจะจับได้ไหม... ว่ามันไหวกี่ริกเตอร์ บางวันก็จับได้ บางวันก็จับไม่ได้ แต่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้ ผืนแผ่นดินโลกนี้มันมีการเคลื่อนอยู่ตลอด มันลอยอยู่บนน้ำนี่ แต่ด้วยความที่แผ่นมันใหญ่มันหนา เราเลยจับความรู้สึกมันไม่ได้ แต่ถ้าจิตนิ่งๆ มันก็ไปจับได้ ในขณะที่เรานั่ง ไม่ใช่ให้ไม่รู้อะไรเลย ให้รู้อะไรอยู่ตลอด นั่นล่ะยอดเยี่ยม คืออย่างนั้น เราก็มาสอนตัวเอง ตอนแรกเราจะหลบไปหาที่ป่าที่เขา เพื่อจะให้ไม่ได้ยินอะไร แต่ว่าไม่ใช่ ก็เพื่อจะให้จิตเกาะอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งแน่นๆ นานๆ เป็นอะไรก็ได้ คราวนี้มาอยู่ตรงนี้ มีเสียงเทศน์ก็เลยเกาะที่เสียงเทศน์ จะให้ทำปัญญาไปด้วย เป็นอย่างนี้ๆ ผู้ที่มีบุญญาธิการมีบุญมีกุศล โอ้ ! ได้ทางลัด นี่เราสงสัยมาตั้งนาน โป๊ะ...หลุดเลย วิกิจิจฉา ความลังเลสงสัย เราไม่รู้เราโง่มาตั้งนาน ตรงนี้เองเขาเรียกว่าทางลัด
...
ยุคนี้เป็นยุคคนหลุดพ้นด้วยปัญญา ก็เลยให้ปัญญากันมากๆ หน่อย แต่จริงๆ แล้วก็ไม่มากเท่าไหร่ เพราะที่จะมานั่งฟังเทศน์น้อยกว่านั่งเองอยู่ตามบ้าน ที่ว่าเงียบๆ แต่บางคนนี่ชินแล้ว ...พอนั่งฟังเทศน์หลวงพ่อทีไรได้ผลทุกที ทำไมล่ะ ฟังไม่เคยจบ บอกได้ผลคือฟังไม่จบ ทำไปได้หน่อยนึง แล้วมันเป็นไง มันนิ่งไปเลย มันเงียบไปเลย ถ้าเงียบแล้วเป็นไง อาการหลังจากพอรู้ขึ้นมา ก็ยังนั่งเฉยอยู่... ถือว่าใช้ได้ แต่ถ้าพอมารู้ตัวอีกที แผ่หลามือหลุดจากกัน ขาเหยียดนิดๆ คอเอนหน่อยๆ น้ำลายย้อยพอประมาณ อย่างนี้เรียกว่าหลับ อย่างนั้นไม่ได้ แต่ถ้าคอตกไปนิดๆ พอรู้สึกตัวขึ้นมาได้ยินเสียงแว่วๆ เมื่อกี้เสียงหายไปพักนึง พอได้ยิน ...จะแผ่เมตตา จะจบม้วนแล้ว เมื่อกี้เราหายไปไหนก็ไม่รู้... นั่นล่ะจิตเข้าสู่ความสงบ ตัดจากการรู้ภายนอกเข้าสู่ภายใน จิตนั้นเมื่อสงบแล้ว ถึงภายนอกจะดังอย่างไรก็ไม่รบกวนภายในเลย เป็นอย่างนั้น
...
เหตุที่ให้ฟังเทศน์แล้วนั่งสมาธิ เพราะจะให้จับเอาเสียงเป็นหลัก แล้วได้ฟังเรื่องทั้งหลายด้วย จิตบางดวงที่ยังไม่ได้เข้าสู่ความสงบ ก็จะพิจารณาใคร่ครวญไปตามปัญญาที่เกิด และก็ไม่ต้องกลัวว่าจะไปรบกวนจิตไม่ให้นิ่ง นิ่ง ปัญญาเกิด และที่ว่านั่งนิ่ง นั่งสงบไปโดยไม่มีเสียงอะไรรบกวน จริงๆ แล้วเมื่อนิ่งเมื่อสงบเมื่อออกจากสมาธิ ต้องมาหาเรื่องคิด ต้องมาหาเรื่องวิจัยแยกแยะ ต้องเอาสังขารร่างกายมาคิดพิจารณาเพื่อจะให้ปล่อยวาง เพื่อจะให้มีเหตุผลทางปัญญา แต่นี่ในขณะนั่งแยกแยะให้เรียบร้อย เรื่องนี้เป็นอย่างนี้ๆ ก็เลยกำไรสองต่อ เจตนาของเราคืออย่างนั้น และอีกกรณีหนึ่ง เพราะเห็นว่าการกระทำเช่นนี้เป็นคุณไม่ใช่เป็นโทษ เท่าที่ปรากฏในสมัยพุทธกาล มีบุคคลที่สามารถบรรลุธรรมกลางลานธรรม ในขณะนั่งฟังพระพุทธเจ้าเทศน์ บรรลุได้เพราะอะไร ? เพราะใคร่ครวญตามธรรมะที่ได้ฟังแล้วเข้าใจ หลุดเลย อย่างนั้น...