เหตุเกิดจากเรื่องเก่าๆ ในสมัยพุทธกาลตอนพรรษาท้ายๆ ก่อนที่พระพุทธเจ้าจะเสด็จปรินิพาน ท่านไปประทับ ณ บุปผาราม (วิหารที่นางวิสาขาสร้างถวายในอุทยานสวนดอกไม้) อยู่มาวันหนึ่ง ...
[ พระพุทธเจ้า ] วิสาขาวันนี้เธอมาอารามแต่วันเชียว
[ นางวิสาขา ] วันนี้ดิฉันถืออุโบสถศีลเจ้าค่ะ
[ พระพุทธเจ้า ] เธอถืออุโบสถแบบไหน
[ นางวิสาขา ] แบบศีล ๘ เจ้าค่ะ
...
[ พระพุทธเจ้า ] อุโบสถมี ๓ อย่าง ได้แก่ โคปาละอุโบสถ (โคบาลคือวัว ปาละคือคนเลี้ยงวัว) คือการถือศีลที่เปรียบเหมือนกับคนเลี้ยงวัว คนเลี้ยงวัวคิดอย่างไร มาถือศีลก็จริง คิดแต่ว่าวันนี้จะกินอะไร พรุ่งนี้จะต้อนวัวไปกินที่ไหน พรุ่งนี้จะทำอะไรกินดี โคปาละคิดแต่เรื่องจะต้องทำกิน การรักษาศีล 8 ท่านเปรียบเทียบอุปมาเหมือนกับคนเลี้ยงโค ที่จะคอยหาทุ่งหญ้าเพื่อที่จะต้อนวัวไปกินในวันรุ่งขึ้น วันรุ่งขึ้น โดยไม่ให้ซ้ำกัน เปรียบเหมือนกับคนที่ถืออุโบสถศีล คอยคิดแต่เรื่องที่จะต้องกินในวันต่อไปๆ ครุ่นคิดอยู่ กังวลใจอยู่ เป็นปริโภช อยู่แต่เรื่องวุ่นวายเหล่านี้ มันก็จะไม่ได้ ไม่มีผลมาก
...
นิคัณฐอุโบสถ คือการถือศีลแบบพวกนิครนถ์ ที่คิดจะถือศีลเฉพาะแต่วันพระ พอเลิกจากวันพระไม่ต้องถือก็ได้ ศีลน่ะ จะยกเว้นข้อไหนๆ ก็ได้ ใน 5 ข้อ อย่าว่าแต่ ๘ ข้อเลย พอออกจากศีล ๘ แล้ว ชาวบ้านที่มาถือศีลอุโบสถ กลับไปก็มีศีล ๕ แล้วไปยกศีล ๕ ข้อนั้นข้อนี้ออกอีก แต่ในวันที่สมาทาน เหมือนตัดญาติขาดมิตร ฉันเป็นคนไม่มีลูก ไม่มีเรือน เป็นคนเปล่าเปลือยเหมือนพวกนิครนถ์เลยนิครนถ์คือพวกไม่นุ่งผ้า ตอนที่เคร่งครัดถืออยู่ แหม แกล้งทำเป็นไม่มีพ่อมีแม่เชียว อย่างนั้นก็เหมือนกับมุสา เหมือนกับโกหกตัวเอง ไม่ใช่มุสากับใคร เหมือนกับมุสากับตัวเอง อย่างนั้นก็มีผลน้อย ถ้าจะให้มีผลมาก อริยอุโบสถ การถือศีลแบบพระอริยะ
...
[ วิสาขา ] มีผลมาก ชื่อว่าอริยะคือพวกใด ... พวกที่เคร่งครัด วิรัติไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ไม่ลักทรัพย์ ไม่ขโมยทรัพย์คนอื่น ประพฤติพรมจรรย์ ไม่เสพกามเมถุน ข้อ ๓ ข้อ ๔ ไม่ประพฤติผิดมุสาวาส หรือวาจาเพ้อเจ้อ คะนองปาก ไม่ระมัดระวังในการที่จะใช้วาจาทั้งหลาย งดดื่มน้ำมึนน้ำเมา ไม่ทัดทรงดอกไม้ ใช้น้ำหอมย้อมทา นอนที่นอนอันพอจะรองไม่ให้เจ็บหนังเจ็บกระดูก ไม่ใช้เตียงฟูกโอ่อ่า นั่นเอง
...
๘ ข้อนี้เป็นอริยอุโบสถ ให้กระทำในจิตในใจด้วยความศรัทธามุ่งมั่น ให้เห็นความคุ้มค่าของอริยอุโบสถ วิสาขา เธอจงนึกถึงพระอรหันต์เจ้าทั้งหลาย ท่านก็วิรัติเคร่งครัดไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตเหมือนกับเธอ ดังนั้นในเมื่อเธอมาถืออุโบสถ เธอก็ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตเหมือนพระอรหันต์ท่านทั้งหลาย ไฉนเลยบุญกุศลของเธอจะน้อยกว่า จะด้อยกว่าได้อย่างไร
...
วิสาขา พระอรหันต์ทั้งหลาย ท่านเว้นขาดจากการหยิบทรัพย์ที่เจ้าของไม่อนุญาต แม้เธอก็กำลังประพฤติปฏิบัติอย่างนั้นอยู่มิใช่หรือ ศีลที่อรหันต์ประพฤติอย่างไรในข้อนี้ เธอก็ประพฤติอย่างนั้นมิใช่หรือ ดังนั้นอานิสงส์ที่ควรจะได้รับ เธอก็จะได้รับเช่นเดียวกันกับอรหันต์ทั้งหลาย
...
วิสาขา พระอรหันต์ทั้งหลายงดเสพเมถุน แม้เธอในวันนี้เธอก็งดเสพซึ่งเมถุนทำทั้งปวง ไม่เรียงหมอนไม่นอนคู่เหมือนกับพระอรหันต์ทั้งหลายที่ท่านประพฤติ พระอรหันต์ได้บุญจากการประพฤติข้อนี้ ในเมื่อเธอก็ทำเช่นนี้ ไฉนเลยคุณค่าราคาจะด้อยกว่ากันได้อย่างไร
...
พระพุทธเจ้าปลุกจิตคนให้ตื่น ให้เบิกบานในสิ่งที่ตนเองประพฤติปฏิบัติ โดยเอาความจริงมากล่าว บางทีเจ้าของเองไม่ได้คิดไปถึงสิ่งที่พระองค์ชี้แจง คิดแต่ว่าเราเป็นชาวบ้าน เรามาทำชั่วคราว เราเพิ่งมาทำ เราไม่ได้บวช คิดแต่ที่จะตัดรอน
...
คิดให้มันอาจหาญอย่างที่พระองค์ทรงแนะ คิดไม่เป็นถ่อมตน ดิฉันจะคิดอย่างนั้นก็ไม่กล้า ไม่ได้ ทำไมจะไม่กล้า ในเมื่อมันเป็นความจริง ให้อาจหาญ ในแต่ละวันอุโบสถก็ยังดี แล้วก็ไม่ได้กล่าวเท็จเลยในสิ่งที่เธออาจหาญนั้น ใช่ว่าเธอนั้นไม่มีเลย คุณสมบัติในศีลเหล่านั้น เพียงแต่สมาทานไปแต่เธอก็ไปเพ้อเจ้อ มุสาวาท ถ้าอย่างนั้นแหละเธอควรจะไม่ภูมิใจ แต่นี่เธอก็เคร่งครัดอยู่ไม่ใช่หรือซึ่งวจีกรรม เจ้าค่ะ ... ท่านชี้ในอุโบสถศีลทั้ง ๘ ข้อให้วิสาขาอาจหาญ
...
นั่นแหละวิสาขา อริยอุโบสถ อุโบสถเยี่ยงพระอริยะเจ้าทั้งหลาย แม้เทพเทวดาต่างๆ ทั้งหลายทั้งปวง ที่ไปเสวยสมบัติอยู่ในเทวโลก ผลจากกรรมอะไรหรือที่ทำให้ได้เสวยความสุขมากมายกว่ามนุษย์จนเทียบกันไม่ได้ เทพบุตรเทพธิดาทั้งหลายต่างก็ล้วนแต่เคยทำกรรมจากอุโบสถศีลเหมือนที่เธอกำลังทำอยู่นี้มาก่อน ดังนั้นสิ่งที่เธอกำลังทำเทียบได้กับเทพบุตรเทพธิดาทั้งหลายที่ได้ทิพย์สมบัติ ที่ได้รับการคัดเลือกให้ไปอยู่ในสวรรค์หลังจากแตกกายทำลายขันธ์์ การกระทำที่จะได้ไปอยู่ในสวรรค์ก็จากอุโบสถศีลนี้
...
วิสาขา จึงว่าอานิสงส์ผลของอุโบสถศีลมีมากมายนัก หาทรัพย์ใดๆ บนเมืองมนุษย์มาเปรียบเทียบไม่มีหรอก ถ้าจะว่า จักรพรรดิจอมแห่งราชา พระราชาที่ยิ่งกว่าพระราชาทั้งหลาย ครองโลกนี้ทั้งใบ เอาไปเทียบราคาของสวรรค์สมบัติ ว่าเป็นเสี้ยวที่สิบหกก็ยังไม่ได้ ....
ฟังเสียงบรรยายธรรม ได้ที่นี่ > https://youtu.be/JX2mCxCsHL8
บรรยายธรรมเมื่อวันที่ ๑๒ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๙