คิดเป็น เห็นธรรม

คิดเป็น เห็นธรรม คิดเป็น เห็นธรรม

จะเป็นอะไรตายก็ตามเถอะ ขอให้นิพพานก็แล้วกัน จะตายไวตายช้าไม่ว่า เมื่อออกจากร่างกายนี้แล้ว ขอให้นิพพานก็แล้วกัน อย่าให้มันไปอยากที่จะเกิดตรงโน้นตรงนี้อีก แค่นั้น จุดมันอยู่แค่นั้น เป็นอะไรตายก็ได้ ขอให้นิพพานเท่านั้น ตกหลุมตกร่องตาย หรือจะหัวเราะตาย ร้องไห้แก่ตาย อย่างไรก็ได้ช่างมันเถอะ แต่ถ้าตายแล้ว ต้องฝึกจิตฝึกใจตัวเองไว้ว่า อย่าให้มีเชื้อที่จะมาเกิดตรงไหนอีก เชื้อ คืออะไรหรือ ? คือ อยาก (ตัณหา) อยากจะเกิดอีก อยากจะกลับมาแก้แค้น แก้ข้องใจอะไรอีก ไม่แก้ไม่เก้อแล้ว

...

พอ พอ ท่องไว้คำเดียว พอ พอแล้ว บุญก็พอแล้ว บาปก็พอแล้ว ดีก็พอแล้ว ชั่วก็พอแล้ว พอ พอมันคำเดียว เกิดก็พอแล้ว ไม่ข้องใจว่าเกิดตรงไหนน้อยไป ตรงไหนยังไม่ได้เกิด ไม่เอาแล้ว พอ ถ้าพอก็นิพพานนั่นแหละ สงบเย็น หยุดการวิ่งเต้นทุรนทุรายที่จะหาเชื้อไปเกิดในที่ไหนๆ พิจารณาให้เห็นความที่ควรจะพอในทุกสิ่งได้แล้ว อยากมีคู่มีเรือน พอแล้ว อยากเป็นผู้หญิงผู้ชาย พอแล้ว เป็นมาก็พอแล้ว ชาติไหนที่เป็นผู้หญิงก็คลอดเอา คลอดเอา ชาติไหนเป็นผู้ชายก็ไปเป็นพ่อเขา มันก็มีแค่นี้

...

พอแล้ว ที่จะเป็นอะไรๆ อีก ถ้ามีคาถาตัวนี้อยู่จริงๆ จะสงบเย็น วันนี้ไม่ได้กินอะไร โอ้ กินมาพอแล้ว กินไว้มากพอแล้ว วันนี้ไม่มีกินก็ไม่เป็นไร อายเขา โอ้อายมามากพอแล้ว เลิกอายแล้ว ไม่มีกินก็ไม่อาย พอ พอให้มันทั้งหมดนั่นแหละ ถ้ามีปัญญาที่จะตอบกับตัวเอง ที่จะบอกกับตัวเองได้ เป็นคาถาประจำตัวเองที่เด็ดเดี่ยวเด็ดขาดได้ มันก็จะยุติ จะหยุด หยุดด้วยความจริง (ยุติธรรม) หยุดเพราะรู้ความจริงว่ามนุษย์นั้นควรจะหยุด

...

หยุดในที่นี้คือหยุดการเวียนว่ายตายเกิด ถ้าหยุดการเวียนว่ายตายเกิด มันจะหยุดจน จะหยุดลำบาก จะหยุดจากความทุกข์ในการที่ลูกป่วยลูกตาย จะหยุดในการที่สามีป่วยสามีตาย จะหยุดในการที่เมียหนีเมียตายเมียทิ้ง จะหยุดในการที่จะอยากได้อะไรๆ ถ้ายุติด้วยความจริง ด้วยธรรมะ ด้วยยุติธรรมแล้ว มันหยุดหมดเลยนะ หยุดหมดทุกๆ อย่างได้ ทุกอย่างมันหยุดได้ นิสัยมนุษย์จิตใจมนุษย์นี่แหละ สามารถจะเด็ดเดี่ยวหยุดทุกอย่างได้ แม้กระทั่งการเวียนว่ายตายเกิด มิเช่นนั้นพระพุทธเจ้าคงไม่สอนให้เรานิพพานหรอก และท่านก็บอกด้วยไม่สามารถจะสอนเปรต สอนเดรัจฉาน สอนสัตว์นรกได้ เราจะสอนพวกเธอ มนุษย์ เทวดา พรหม เท่านั้นแหละที่สามารถยุติได้ ซึ่งการเกิด

...

ในเมื่อยุติได้ แล้วทำไมจะต้องทำตัวให้ก่อเวรก่อกรรมสืบทอดไปอีก ถ้าคนที่เข้าใจในความจริง ก็จะไม่สืบทอดการที่จะจองเวรจองกรรมต่อๆ ไป ที่จะอาฆาตพยาบาท ที่จะอยากได้อะไรๆ ต่อไป เพราะมันพอ...พอ ก็เลยต้องทำปัญญาให้เกิด เข้าใจคำว่าพอให้แตกฉาน จบ...จบได้ ด้วยอัตภาพของมนุษย์สมบัติ ได้สมบัติมาชิ้นหนึ่งคือมนุษย์สมบัติ ความเลิศความยอดเยี่ยมแห่งการเป็นมนุษย์มันจะมีก็ตรงนี้ ตรงที่สามารถนิพพานได้ ตรงนี้แหละยอดกว่าเรื่องอื่น เย็บเสื้อผ้าเก่ง แกงได้อร่อย ทำขนมได้อร่อย สิ่งต่างๆ ทั้งหลายเหล่านั้นเป็นเฟอร์นิเจอร์ เป็นองค์ประกอบย่อยทั้งนั้นเลย จุดใหญ่คือตรงนี้ คือทราบไหมว่าสามารถนิพพานได้ สมบัติใดไม่เท่านิพพานสมบัติ

...

ปลุกจิตปลุกใจ ไม่ให้หลงใหลไปกับสัพเพเหระ สารพัดพิธีกรรมอะไรก็ไม่รู้มากมายก่ายกอง ดำผุดดำโผล่กันถูกบ้างผิดบ้างกันเต็มบ้านเต็มเมือง ก็อย่าไปสับสนตามมัน เกิดมาเพื่อตัวเองเถอะ ทำไม ? สอนให้เห็นแก่ตัวอย่างนั้น ถ้าทุกคนเห็นแก่ตัว ทำเพื่อตัวเองคือทำให้ตัวเองพ้นทุกข์ ก็จะไม่มีใครเบียดเบียนใคร จะไม่มีใครเห็นแก่ตัว ถ้าคำว่าเห็นแก่ตัวคือไม่เอาใคร ไม่ใช่ ถ้าเราไม่เห็นแก่ตัวแล้วนั่นแหละ เราจะเอาทุกคนเลย เราจะรักทุกคนทุกดวงจิต รักจริงด้วย จริงยิ่งกว่าผัวรักเมีย เมียรักผัวอีก เชื่อแน่เลย สามีภรรยาเสียอีกยังเถียงกัน ยังโกรธยังงอน ยังหวงยังหึงกัน รักไม่จริง ถ้ารักแบบพระพุทธเจ้ารักพวกเรา แบบพระอรหันต์รักพวกเรา แน่นอนเลยท่านไม่มีน้ำหวงน้ำหึงปนหรอก ไม่มีโกรธ ไม่มีงอน ประชดประชันอะไรเลย เห็นไหม

...

ท่านรักยิ่งกว่าสามีภรรยารักกันอีก เปรตทั้งหลายทั้งปวงไม่ได้เป็นสามีภรรยาอะไรท่าน ท่านยังอุทิศบุญให้หลุดรอดจากภพภูมิที่ลำบากทั้งหลาย ไม่ใช่อุทิศให้เฉพาะสามีภรรยาของตัวเอง ท่านอุทิศโดยไม่มีประมาณ ทุกตระกูลอันควรจะรับได้เอาไปนะ เราให้ ....

บรรยายธรรมเมื่อวันที่ ๒๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๒